เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เทคนิคเพิ่มยอดขายเป็นสิ่งที่นักขาย ผู้จัดการทีมขายทุกคนต่างก็คาดหวังว่าจะช่วยเอามาใช้ในการ boost ยอดขายแบบก้าวกระโดด จนนักขายในหลาย ๆ ครั้งเองก็อาจจะแอบมุ่งมั่นกับการหาเทคนิคเพิ่มยอดขาย มากกว่าการหาลูกค้าเสียด้วยซ้ำ สุดท้ายสิ่งที่เรามักจะพบเจอกันก็คือเรื่องของยอดขายที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกับเทคนิคที่เพิ่มมากขึ้น บางครั้งเทคนิคที่เคยใช้ได้ผลก็อยู่ดี ๆ ไม่เวิร์คไปซะอย่างงั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับเทคนิคการขายในปัจจุบัน?

ในส่วนของนักขายเองเมื่อเจอแบบนี้หลายครั้งเข้าก็รู้สึกว่างานขายนั้นยากเหลือเกิน เทคนิคที่เฝ้าทุ่มเทหามาและทดลองใช้กลับล้มเหลว เคล็ดลับการขายเอาเข้าจริงมันอาจจะง่ายกว่าที่ทุกคนคิดก็เป็นได้ จะเป็นอย่างไรถ้าหากการขายไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อน แต่เป็นแค่หลักการหรือวิธีพื้นฐานง่าย ๆ ในการจัดการก็ทำให้ยอดเพิ่มได้ล่ะ อ่านถึงตอนนี้เพื่อน ๆ คงเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันมีจริงเหรอ เทคนิคที่ง่าย ๆ แต่ใช้ได้ผลจริง ๆ วันนี้เราจะมาเสนอวิธีดี ๆ ที่คุณสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ และจะช่วยให้เพิ่มยอดขายได้อย่างแน่นอน

เทคนิคเพิ่มยอดขาย

1.ทำแผนและเป้าหมายให้ชัดเจน

สำหรับนักขายทั่ว ๆ ไปแล้วก็คงจะมองเป้าหมายเป็นรายเดือน หรือรายไตรมาสขึ้นอยู่กับว่าทางบริษัทกำหนดไว้อย่างไร ส่วนเรื่องของแผนน่ะเหรอ ไม่จำเป็นต้องมีหรอก ตราบใดที่หาลูกค้าได้ก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับนักขายมืออาชีพนั้นทุกคนล้วนให้ความสำเร็จของการมีเป้าหมายที่ชัดเจนและการทำแผนงานละเอียดในระดับรายวันเลยทีเดียว พวกเข้านั้นเข้าใจดีว่าการจะถึงเป้าหมายได้นั้น เกิดจากผลลัพธ์ของกิจกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่อง เค้าจะไม่ปล่อยเวลาในแต่ละวันให้เสียเปล่า คุณเองก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้ง่าย ๆ โดยการมุ่งเน้นที่สิ่งที่ต้องการจะทำในแต่ละวัน จะพบลูกค้ากี่ราย จัดตารางนัด เตรียมตัวไว้ให้พร้อม ตั้งเป้าหมายเป็นจำนวนที่ชัดเจนเลยในแต่ละวันว่าจะทำอะไรบ้าง แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะทำได้ไม่ถึงที่วางแผนไว้ แต่รับประกันว่าจะได้เยอะกว่าคนที่ไม่วางแผนอะไรเลยอย่างแน่นอน

2.ลดงานที่ไม่เกี่ยวข้อง

อีกหนึ่งเทคนิคที่ง่ายกว่าที่คิดเลยก็คือ การลดเวลาของงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายลงให้มากที่สุด พนักงานขายมักจะต้องเสียเวลาจำนวนมากไปกับการทำเอกสารที่สุดท้ายแล้วไม่ได้ช่วยนำมาซึ่งยอดขายเลย ตัวอย่างงานที่เรามักจะเจอกันประจำก็เช่น การทำใบเสนอราคา การออกเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย การทำสไลด์เสนองาน การเก็บเงินลูกค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ละ task อาจจะกินเวลาไม่เท่าไร แต่ว่าพอรวม ๆ กันเข้าก็เป็นเวลาที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้นักขายต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับงานที่ไม่ได้ยอด

3.กำหนดมาตรวัดผล

อย่างที่เราได้แนะนำไปในเทคนิคข้อแรกว่านักขายเรามักจะมียอดขายเป็นมาตรวัดผลเดียวและมาตรวัดผลหลัก แต่จงอย่าลืมว่านั่นเป็นแค่มาตรวัดที่บริษัทใช้วัดผลงานของเรา ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายเราเพิ่มอะไรได้เลย หากเราไม่มีมาตรวัดอื่น นักขายเองนั้นหากอยากประสบความสำเร็จในการขาย ลองพิจารณามาตรวัดซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำแล้วจะส่งผลดีต่อสุขภาพของไปป์ไลน์ในระยะยาว เช่น

  • จำนวน lead ใหม่ ๆ ที่สนใจ
  • การโทรหาลูกค้าใหม่  วันละอย่างน้อย 20-30 ราย
  • ทำนัดเข้าพบลูกค้าไม่น้อยกว่า 3 รายต่อวัน

4.หาสาเหตุของดีลที่สำเร็จและล้มเหลว

คนส่วนใหญ่แล้วล้วนชอบที่จะฉลองเมื่อได้รับชัยชนะ และมักจะไม่ได้ให้ความสนใจกับดีลที่ล้มเหลวสักเท่าใดนัก

ทั้งที่จริง ๆ แล้วเราจะเป็นเซลล์ที่เก่งได้ก็ต่อเมื่อเรารู้ว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้การปิดดีลนี้ไม่สำเร็จ เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง และจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร ลองประยุกต์นำนิสัยของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาใช้ ที่จะคอยหมั่นทบทวนผลงานของตัวเองของตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาจะไม่เพิกเฉยและปล่อยการซื้อขายที่ผิดพลาดเสมือนกับว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น แต่พวกเขาจะใส่เหตุผล และบอกว่าทำไมถึงตัดสินใจอย่างนั้น ทำไมผลลัพธ์ถึงออกมาเช่นนี้ รับรองได้ว่าคุณทักษะการขายของคุณจะเปลี่ยนไปมากภายในเวลาไม่กี่เดือน

5.อย่าลืมลูกค้าเก่า 

เป็นธรรมชาติของนักขายที่มักจะมุ่งเน้นไปที่การหาลูกค้าใหม่ เพื่อเอายอดคอมมิชชั่น แต่คุณกลับลืมคนที่สามารถช่วยเพิ่มยอดของคุณได้โดยที่บางครั้งไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก นั่นก็คือลูกค้าเก่านั่นเอง นักขายมักจะละเลยลูกค้าเก่ากัน เพราะคิดว่าคงไม่ได้ซื้อขายอะไรกันอีกเท่าไรแล้ว แต่จริง ๆ กับลูกค้าเก่าหากคุณมีการติดต่อกันอยู่เรื่อย ๆ เมื่อต้องการ upsell หรือนำเสนอ product อะไรเพิ่มเติมจะง่ายกว่าลูกค้าใหม่มาก ๆ เพราะไม่ต้องมาทำความรู้จักกันใหม่เหมือนกับลูกค้าใหม่ตั้งแต่การแนะนำตัว แนะนำสินค้า ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ มากมายกว่าลูกค้าจะยอมตัดสินใจซื้อสินค้า หลายต่อหลายครั้งเองนักขายก็ได้รับโอกาสใหม่ ๆ ที่ทางลูกค้าเก่าแนะนำให้อีกต่างหาก ดังนั้นแม้ว่าจะยุ่งเพียงใดก็ตามก็จงอย่านำมาเป็นข้ออ้างในการละเลยลูกค้าเก่า

และด้วยวิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมาในบทความนี้ แม้จะเป็นเทคนิคที่ดูเหมือนจะทำได้ง่าย ๆ แต่ก็เป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ หากเพื่อน ๆ นักขายสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้แล้วล่ะก็รับรองได้เลยว่ายอดขายต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ CRM และการบริหารงานขายได้ที่
Blog www.veniocrm.com/blog 
Facebook www.facebook.com/veniocrm
Twitter:  www.twitter.com/veniocrm
Youtube
:  
www.youtube.com/veniocrm


Tags

sales techniques, เทคนิคเพิ่มยอดขาย


บทความที่คุณอาจสนใจ

>
Success message!
Warning message!
Error message!