5 สกิลการขายที่เซลล์ยุคใหม่จำเป็นต้องรู้

สกิลการขายนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับนักขายที่จะประสบความสำเร็จ และเป็นอะไรที่นักขายจะต้องคอยขัดเกลาและฝึกฝนอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ปัญหาก็คือหลาย ๆ ครั้งนักขายเองก็ไม่แน่ใจว่าสกิลการขายที่เรากำลังพยายามฝึกฝนอยู่นั้นแท้จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ หรือไม่ ต่างกับอาชีพอื่น ๆ เช่นนักกีฬาที่รู้ได้ทันทีเลยว่าสกิลแบบไหนที่เป็นที่ต้องการของทีม และด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปมากในโลกการแข่งขันปัจจุบันนั้น วันนี้ Venio เราจะมาแนะนำ 5 สกิลการขายที่บอกเลยว่ามีประโยชน์กับเซลล์ในยุคใหม่นี้อย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้างลองมาดูกันได้เลย

5 สกิลการขายที่เซลล์ยุคใหม่ไม่มีไม่ได้

ทักษะการสื่อสาร

ด้วยความที่เรารู้กันดีว่างานอย่างหนึ่งของเซลล์ก็คือการพยายามทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าที่เราต้องการขาย และในการขายนั้นต้องมีการโน้มน้าวเกิดขึ้น แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการที่จะทำให้ลูกค้าคล้อยตามเราไปได้ หากว่าเซลล์คนนั้น ๆ ปราศจากทักษะการสื่อสารที่ดี เรามักจะคิดว่าคนที่ทำงานการขายนั้นจะต้องมีทักษะการสื่อสารที่เยี่ยมยอด แต่แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เราคงเคยเจอนักขายที่หลายครั้งสนใจแต่เป้าหมายของตัวเอง ดังนั้นแล้วการจะมีทักษะการสื่อสารที่ดีได้นั้น อย่างแรกต้องเริ่มจากการเข้าใจลูกค้า เข้าใจสินค้าของตนเองให้ดีก่อน พร้อม ๆ กับ mindset ที่อยากจะช่วยเหลือลูกค้าเต็มที่ และพยายามฝึกฝนในเรื่องของการพูดให้ตรงประเด็น ชัดเจน และใจความต่าง ๆ ครบถ้วนก็จะช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นไปได้อย่างมืออาชีพ

Empathy หรือความเห็นอกเห็นใจ

Empathy นั้นเริ่มกลายเป็นคำที่ได้ยินหนาหูมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ความเห็นอกเห็นใจนั้นคือการที่นักขายต้องพยายามทำความเข้าใจ ว่าถ้าคุณเป็นลูกค้าคนนั้น ๆ คุณกำลังรู้สึกอะไรอยู่ แทนที่จะใช้วิธีเพียงแค่ฟังสิ่งที่ลูกค้าเล่าให้ฟังเฉย ๆ เช่น หากลูกค้ามีท่าทีว่าเริ่มตั้งกำแพงกับการขายสินค้าเรา ก็ถึงเวลาที่เราต้องดูว่าทำไมลูกค้าจึงคิดเช่นนั้น ท่าทีแบบไหนของเราที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกแบบนั้น  และถ้าเป็นเราต้องมานั่งเจอกับการขายแบบนี้เราจะรู้สึกอย่างไร การคิดทบทวนด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเป็นนักขายที่ดีขึ้น เข้าใจลูกค้ามากขึ้น และเมื่อลูกค้ารู้สึกว่าคุณเป็นคนที่เชื่อถือได้ ยอดขายก็ต้องตามมาอย่างแน่นอน

Active listening 

นักขายมักจะมีคำถามว่าเราจะโชว์ให้ลูกค้าเห็นว่าสินค้าเราช่วยตอบโจทย์เค้าได้อย่างไร ในเมื่อช่วงแรก ๆ เรายังไม่รู้จักลูกค้าดีพอ เจ้าสกิลการฟังแบบ active listening นั้นจึงมาเป็นสิ่งที่จะช่วยให้การขายประสบความสำเร็จได้อย่างสูงมาก ๆ เพราะเราไม่ได้ฟังลูกค้าแบบขอไปทีเพื่อที่ว่าเมื่อถึงตาเราพูดแล้วเราจะเสนอขายสินค้าต่อ ถ้าเราอยากจะขายของให้ได้ การใส่ใจในบทสนทนาจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ จงตั้งใจฟังโดยไม่พยายามคิดว่าเราจะพูดอะไรเมื่อถึงตาเรา จดโน๊ตในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งโดยมากแล้วลูกค้ามักจะไม่ได้บอกเรามาตรง ๆ และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องค้นหามันให้ได้ และนั่นก็คือเคล็ดลับความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งนั่นเอง

สกิลในการจัดการอารมณ์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสำหรับนักขายนั้นต้องเจอกับคำปฏิเสธจำนวนไม่น้อย และทำให้อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีความเครียดในระดับต้น ๆ เลยทีเดียว หลาย ๆ ครั้งนักขายเองก็เกิดอาการจิตตก และก็ส่งผลกระทบกับอารมณ์ไม่น้อย ซ้ำร้ายพอต้องไปเจอกับลูกค้าก็เป็นลูกค้าที่ปฏิบัติต่อคุณได้อย่างแย่อีก พอเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้ทุกอย่างถาโถมลงไปอีกเยอะมาก ๆ ดังนั้นแล้วการจัดการอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับสายอาชีพนี้ คุณต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์มาควบคุมคุณ แม้ว่าในหลาย ๆ สถานการณ์จะไม่เอื้อให้คุณ แต่นักขายที่ดีต้องสงบนิ่งและคงความสุภาพไว้ให้ได้

การเล่าเรื่อง 

หมดยุคที่การขายเป็นเพียงแค่การโน้มน้าวให้ลูกค้าพยายามซื้อสินค้าจากทางเราเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่สมัยก่อนแล้วที่ผู้คนชอบที่จะฟังเรื่องราวอะไรสักอย่าง การลองปรับเอาเทคนิคการเล่าเรื่องมาใช้กับงานชายก็จะช่วยให้ลูกค้าให้ความสนใจกับเรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ อีกด้วย ลูกค้าจะสามารถทำความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เข้าใจว่าสินค้าเรานั้นแตกต่างอย่างไร และที่สำคัญคือจะช่วยให้พวกเขาจำคุณได้อีกด้วย ดังนั้นแล้วหากคุณเป็นนักขายที่คิดว่าการเล่าเรื่องไม่ใช่สิ่งจำเป็น ลองปรับเอาเทคนิคนี้ไปใช้ได้โดยด่วน

จะเป็นเซลล์ที่ประสบความสำเร็จนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าสกิลการขายต่าง ๆ ยังมีอีกเยอะแยะมากมายที่รอให้นักขายได้เรียนรู้ แต่สำหรับ 5 ทักษะที่เราคัดมาให้นั้น จะช่วยสร้างพื้นฐานที่ดีในการต่อยอดสู่การเป็นนักขายชั้นเยี่ยม อย่าลืมเรียนรู้และนำไปฝึกใช้ในชีวิตจริง จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน