7 อุปนิสัยสำหรับนักขายมืออาชีพ

การเป็นนักขายมืออาชีพนั้นคงไม่ได้จู่ ๆ จะสามารถเป็นกันได้ภายในเวลาข้ามวันข้ามคืน แต่คงต้องผ่านการทุ่มเท และผ่านการฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์ มองเผิน ๆ แล้วสิ่งที่กล่าวมาทั้ง 2 อย่างน่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้เรากลายเป็นนักขายชั้นเซียน ถ้าสิ่งนี้เป็นเรื่องจริงแล้วทำไมนักขายจำนวนมากที่อยู่ในวงการมานานกลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร อะไรที่ทำให้พวกเค้าแตกต่างกันในแง่ของประสิทธิภาพ ถ้าจะต้องเลือกสักอย่างคงเป็นอุปนิสัยนั่นเอง

มีหนังสือเล่มนึงที่โด่งดังเอามาก ๆ เลยหนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า 7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง เป็นหนังสือที่แม้จะเก่าแล้วแต่กลับไม่ได้เสื่อมความนิยม สาเหตุหนึ่งนั่นก็เพราะว่าอุปนิสัยที่กล่าวมาในหนังสือนั้นทำให้เรากลายเป็นคนที่มีประสิทธิภาพได้จริง ๆ เฉกเช่นเดียวกันกับการเป็นนักขายมืออาชีพ สิ่งที่พวกเขามีและทำให้แตกต่างจากนักขายธรรมดา นั่นก็คือเรื่องของอุปนิสัยนั่นเอง ที่อุปนิสัยบางอย่างทำให้คุณกลายเป็นนักขายที่เก่งมาก ๆ ได้จริง แล้วจะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันได้เลย

7 อุปนิสัยสำหรับนักขายมืออาชีพ

1.อุปนิสัยแรก: ทำงานเชิงรุก

อุปนิสัยแรกที่นักขายทุกคนต้องทำเพื่อเปิดทางไปสู่การเป็นนักขายมืออาชีพคือการทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการหา lead ลูกค้า ที่เซลล์ทุกคนต้องหมั่นหาลูกค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา และไม่รอให้ลูกค้าวิ่งเข้ามาหาเราเอง นักขายมืออาชีพทุกคนมองเห็นโอกาสอยู่อย่างสม่ำเสมอ ด้วยทัศนคติแบบนี้ทำให้พวกเขาสามารถปิดลูกค้าใหม่ได้อยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้แล้วการทำงานเชิงรุกยังไม่ได้เป็นเฉพาะกับตัวเองด้วยแต่ยังรวมไปถึงการคิดเผื่อลูกค้า มองหาปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่ลูกค้าจะรู้ตัวด้วยซ้ำ

2.อุปนิสัยที่ 2: มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย

ในการทำงานขายนั้นสิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องเจอเช่นเดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยนั่นก็คือ คำปฏิเสธจากลูกค้านั่นเอง หลายคนท้อถอดใจไปเสียก่อน ในขณะที่เคสกลับกันก็คือการที่ ณ ช่วงเวลาหนึ่งคุณอาจทำยอดขายได้มาก จนหลงระเริงและปล่อยเวลาทิ้งไป บางครั้งการโทรหาลูกค้าก็เป็นแค่การโทรไปเพื่อให้จบ ๆ งาน นักขายมืออาชีพนั้นจะรู้ตัวเองดีอยู่เสมอ และโฟกัสไปที่เป้าหมาย ทุกวินาทีที่พวกเขาใช้ไปกับการทำงานที่มีคุณค่าจะช่วยให้พวกเขาขยับเข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น

3.อุปนิสัยที่ 3: รู้ว่าต้องทำอะไร

นักขายหลาย ๆ คนดูทำอะไรเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดในแต่ละวัน แต่กลับปิดการขายได้ไม่เท่าไร เพราะใช้เวลาไปกับ task งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขายซะเยอะนั่นเอง และซ้ำร้ายพอไปทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขาย ก็กลับเป็นการใช้เวลาไปพูดคุยกันแบบปิดจบไม่ได้ เพราะไม่กล้าถามเพื่อปิดการขาย จงจำไว้ว่า “Telling is not selling” การได้แค่พูดคุยกันยังไม่ได้หมายความว่าจะขายได้ นักขายมืออาชีพรู้ว่าจังหวะไหนจะต้องเสนอขาย รู้ว่าจะเชื่อมโยงสินค้าและบริการตนเองเข้ากับความต้องการลูกค้าได้อย่างไร ทั้งหมดนี้เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขารู้ว่าต้องทำอะไร

4.อุปนิสัยที่ 4: จงให้คุณค่ากับลูกค้าเสมอ

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็รู้ถึงประเด็นนี้ แต่เอาเข้าจริงธรรมชาติของนักขายนั้นมักจะนึกถึงตัวเองก่อนลูกค้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยอดขายที่จะต้องปิด จนทำให้การขายนั้นเน้นไปที่ตัวเองล้วน ๆ และลืมคิดถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างลูกค้าไป เมื่อคุณเสนอขายสินค้า โดยทำความเข้าใจกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และนำเสนอในแง่มุมที่ลูกค้ายังไม่เคยได้รับรู้มาก่อน เมื่อนั้นลูกค้าจะรู้สึกว่าเค้าได้อะไรมากกว่าการซื้อสินค้า นักขายมืออาชีพจึงไม่ใช่นักขายธรรมดาแต่เปรียบเสมือนผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งแทน

5.อุปนิสัยที่ 5: ความมั่นคงทางอารมณ์

อย่างที่เรากล่าวไปก่อนหน้านี้ นักขายนั้นเป็นงานที่มีความเครียดมาก ๆ จากยอดขายที่ต้องทำให้ถึง จากคำปฏิเสธที่ได้รับจากลูกค้า พอลูกค้าซื้อสินค้าเราก็ดีใจแบบสุด ๆ แต่พอลูกค้าไม่ซื้อเราก็หดหู่ และพอได้รับคำปฏิเสธบ่อย ๆ แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลต่ออารมณ์ของนักขายอย่างเรา ๆ สิ่งหนึ่งที่นักขายระดับเทพทำได้คือการจัดการอารมณ์พวกเขาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ปล่อยให้ความผิดหวัง ความยินดี ปัจจัยภายนอกมาส่งผลต่ออารมณ์ของพวกเขา และนั่นทำให้พวกเขาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะสุดท้ายแล้วการขายไม่ใช่การวิ่งระยะสั้นแต่เป็นการวิ่งมาราธอน จงเตรียมตัวให้พร้อมในเกมระยะยาวนี้

6.อุปนิสัยที่ 6: ไม่โทษคนอื่น

เมื่อคุณปิดการขายไม่ได้เป็นเรื่องปกติที่คุณจะอยากโทษใครสักคน นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นธรรมชาติของมนุษย์เรา มันเป็นการง่ายที่เราจะกล่าวโทษคุณภาพของ lead ที่ไม่ดี หรือแม้กระทั่งสไลด์เสนองานไม่ดีพอ อย่าลืมว่าหากคุณคิดว่าทุกอย่างต้องดีหมด เมื่อนั้นก็อาจจะไม่มีงานให้คุณทำแล้ว หากทุก lead เป็น lead ที่ดีมาก ๆ และลูกค้าต้องการซื้อสินค้าเลย หากเป็นเช่นนั้นการใช้บอทในการจัดการก็คงเพียงพอแล้ว เหตุที่ยังต้องมีนักขายอยู่นั่นก็เพราะว่าการขายยังต้องพึ่งพาพวกคุณอยู่ สิ่งที่คุณควรทำจึงเป็นการคิดบวก และทุ่มเทให้กับการทำงานในส่วนของตนเองอย่างเต็มที่

7.อุปนิสัยที่ 7: ลงทุนกับตัวเอง

และอุปนิสัยสุดท้ายที่แบ่งแยกนักขายมืออาชีพกับนักขายธรรมดานั่นก็คือการลงทุนกับตนเอง หลายครั้งที่เราเห็นนักขายที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในช่วงเวลาสั้น ๆ และสุดท้ายพวกเขาก็ตกหลุมพลางความสำเร็จของตนเอง ยังใช้วิธีเก่า ๆ กับโลกที่เปลี่ยนไป เซลล์มืออาชีพนั้นแม้จะเก่งสักเท่าใด และแม้ว่าเวลาสำหรับเซลล์จะสำคัญมากแค่ไหน พวกเขาก็ยังพยายามหาเวลาในการพัฒนาตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การลงคอร์สใหม่ ๆ การไปงานสัมมนา นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้พวกเข้าก้าวล้ำนำใคร ๆ