มาดูกันเลย ฟีเจอร์ CRM อะไรที่เหมาะกับคุณ

หลังจากที่ได้ตามอ่านบทความเกี่ยวกับฟีเจอร์ CRM บน blog ของเราไปแล้ว หลายๆท่านก็คงพอเห็นภาพแล้วว่าฟีเจอร์แต่ละอันที่มีมาใน โปรแกรม CRM จะช่วยอะไรเราได้บ้าง แน่นอนว่าประโยชน์อย่างแรกเลยคือการจัดการ Sales force หรือก็คือจัดการบริหารพนักงานขายนั่นเอง และประโยชน์อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องของการดูแลลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด จากการจัดการปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นหน้างาน แต่ทีนี้เราก็มักจะได้รับคำถามหลายๆ แบบว่าถ้าธุรกิจฉันเป็นแบบนี้จะเหมากะกับการใช้ฟีเจอร์ตัวไหน วันนี้เราจะมาจำแนกให้ฟังกันคร่าวๆ ครับ

มีทีมขายต้องออกไปพบลูกค้า

สำหรับใครที่ธุรกิจเป็นในแนวที่ต้องพึ่งพาทีมขายออกไปพบลูกค้าที่หน้างานแล้วล่ะก็ สิ่งสำคัญที่สุดคือการวัดผลประสิทธิภาพทีมขาย การทำแผนงานออกไปพบลูกค้าต้องมีประสิทธิภาพและต้องทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เราได้รับมาจากลูกค้าจะได้รับอย่างทันท่วงที เรียกได้ว่าแทบจะใช้ประโยชน์ที่มีทุกอย่างในระบบ CRM ได้เลย มาดูกันเลยว่าฟีเจอร์เด่นๆสำหรับธุรกิจประเภทนี้มีอะไรบ้าง

• Lead & Customer management จัดการข้อมูลลูกค้าทุกอย่าง อัปเดตและสามารถเรียกดูข้อมูลได้ทันที ทำให้การแบ่งกลุ่มลูกค้าทำได้ง่ายดาย ข้อมูลไม่กระจัดกระจายแบบการบันทึกลงสมุด
• Activity management ฟีเจอร์เด่นที่ทำให้พนักงานขายคุณรู้จักการวางแผนงานเข้าพบลูกค้า และผู้บริหารเองก็ยังสามารถเห็นว่าพนักงานมีการเข้าพบจริงไหม มีผลลัพธ์การเข้าพบอย่างไรบ้าง
• Deal management ทำให้การจัดการดีลที่เกิดขึ้นของนักขายเป็นระบบมากขึ้น และที่สำคัญคือผลลัพธ์เหล่านั้นที่เกิดจากการเข้าพบลูกค้า จะถูกมาบันทึกในระบบอย่างแน่นอน การจัดลำดับและติดตามดีลก็ง่ายดายมากขึ้น
• Case management ทำให้ปัญหาที่ได้รับจากลูกค้าถูก track อยู่บนระบบอยู่ตลอดเวลา เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารก็รับรู้ปัญหาได้เสมือนลงไปหน้างานด้วยตนเอง

ไม่มีทีมขายแต่ต้องทีมต้องออกนอกสถานที่

หลายๆคนก็มีคำถามเข้ามาว่า แล้วถ้าไม่มีมีทีมขายล่ะ ยังจำเป็นต้องใช้ระบบ CRM อยู่ไหม จากที่เราเจอมาในหลายๆองค์กร ไม่มีทีมขายในการดูแลลูกค้า อาจจะเป็นตำแหน่งหน้าที่อื่นที่ต้องมีการออกไปทำงานที่ไซต์งานลูกค้า การทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นลักษณะการพบลูกค้า แต่ก็มีผลกระทบโดยตรงต่อภาพรวมประสิทธิภาพของคนในทีม เราจะมาแนะนำฟีเจอร์ที่เหมาะๆให้ครับ

• Activity management แน่นอนว่าเมื่อต้องมีการไปนอกสถานที่ เราก็ต้องอยากรู้ว่าพนักงานมีการไปเข้าไซต์งานจริงไหม แล้วมีพฤติกรรมการเข้างานอย่างไรบ้าง ไปตรงเวลาหรือเปล่า ฟีเจอร์นี้ก็จะเข้ามาช่วยเป็นอย่างมาก
• Real-time report ก็เป็นอีกตัวนึงที่ช่วยให้ทีมรู้ว่าสรุปการทำงานของวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง หัวหน้าทีมก็รู้ความคืบหน้าของการทำงานที่เกิดขึ้น สามารถวางแผนงานต่อได้ถูก
• Expense management เบิกค่าใช้จ่ายผ่านระบบได้ ไม่ต้องทำเป็นระบบเอกสารรอเบิกแบบทุกที พร้อมแนบหลักฐานค่าใช้จ่ายผูกติดกับกิจกรรม ทำให้การทำเบิกโปร่งใส

บริหารโครงการก็ใช้ได้นะ

หรือไม่ว่าจะเป็นงานที่มีลักษณะเป็นโครงการมีการขายในช่วงเวลาที่ยาวนาน งานโปรเจกต์หนึ่งกว่าจะจบได้ก็เป็นเวลาหลายเดือนหรือบางครั้งเป็นปีการใช้ CRM เข้ามาช่วยก็จะทำให้ทั้งคนที่บริหารโครงการสามารถจัดการคนในทีมได้ง่ายขึ้น task ต่างๆ ก็ยังจัดการได้อีกด้วย

• Follow up notification ตั้งจัดการและ assign เพื่อให้คนในทีมทำการติดตามใน task งานต่างๆที่เกิดขึ้นกับลูกค้าที่หน้างาน พร้อมระบุ next action ที่ต้องทำ
• Deal management บริหารโครงการผ่าน deal stage แบบ card ที่สามารถเรียกสร้างได้ถึง 10 สเตจทำให้การทำงานทำได้ง่ายขึ้นและเห็นภาพรวมว่าโครงการมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
• Case management คนในทีมเองก็สามารถรายงานสถานะต่างๆผ่านระบบเคส นอกจากนั้น ยังช่วยให้ทุกคนในทีมเข้าใจภาพรวมได้มากขึ้น หรือบางครั้งถ้ามีปัญหาแบบเดิมเกิดขึ้นก็สามารถจัดการโดยอิงจากองค์ความรู้เดิมที่มีในระบบได้

แล้วเซอร์วิสทีมที่ต้องบริการลูกค้าล่ะ

ธุรกิจที่ต้องมีการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ก็ตรงตามชื่อเลยครับเพราะว่า CRM เองนั้นก็ย่อมาจาก Customer relationship management ซึ่งจริงๆแล้วงานบริการ งานเซอร์วิสต่างๆก็เป็นอีกกลุ่มหลักที่จะได้ประโยชน์จากการใช้โปรแกรม CRM ไปเต็มๆ ทำให้การทำงานและ tracking ติดตามเรื่องต่างๆทำได้ง่ายขึ้น มาดูกันเลยดีกว่าว่าฟีเจอร์อะไรที่เหมาะกับคุณ

• Customer management ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทำให้การ centralized มาอยู่ที่ศูนย์กลางจะทำให้เซอร์วิสทีมมีข้อมูลชุดเดียวกันในการติดต่อและดูแลลูกค้า รู้รายละเอียดลึกๆจากการเรียกดูข้อมูบ
• Case management เมื่อมีปัญหาเข้ามานอกจากจะสามารถดูจำนวนเคสที่เกิดขึ้นในระบบได้แล้ว ยังดูสถานะและติดตามเคสต่างๆที่เกิดขึ้นได้ว่าเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง มีเคสค้างอยู่เท่าไร
• Report รายงานต่างๆที่ทางทีมบริการลูกค้าสามารถเรียกดูได้เช่น ข้อมูลลูกค้าแยกตามประเภทต่างๆที่ได้มีการกำหนดไว้ ข้อมูลลูกค้าแบ่งตามคลาส เผื่อเอาไปใช้ประโยชน์ในการบริการ

สรุป ฟีเจอร์ CRM ที่เหมาะกับคุณ

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเป็นประเภทใดก็ตาม ตัว CRM ก็จะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการช่วยให้คุณบรรละเป้าหมายต่างๆได้ง่ายดายขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายในการจัดการลูกค้า หากวันีน้คุณอ่านบทความนี้จบแล้วยังไม่แน่ใจว่าแล้วธุรกิจของฉันจะได้ประโยชน์จากตัว CRM หรือเปล่า ติดต่อเรามาได้เลยผ่านทางช่องทางด้านล่างครับ เรามี CRM specialist ที่จะช่วยแนะนำคุณว่าธุรกิจคุณจำเป็นต้องใช้ CRM แล้วหรือยัง