ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณ และอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าแบบยาว ๆ อย่างยั่งยืน คุณคงต้องเคยได้ยินคำว่า Customer Life Cycle หรือ วงจรชีวิตของลูกค้า เส้นทางที่ลูกค้าเดินผ่านมาตั้งแต่เริ่มรู้จักผลิตภัณฑ์ของเรา ไปจนถึงกลายเป็นลูกค้าที่ภักดี หากเราสามารถจัดการกับทุกขั้นตอนในเส้นทางนี้ได้ดี ธุรกิจของคุณก็จะเติบโตได้อย่างมั่นคง
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Customer Life Cycle กันให้มากขึ้น พร้อมแนะนำ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถใช้ CRM เพื่อจัดการกับวงจรชีวิตของลูกค้า ให้ยอดขายของคุณพุ่งทะยาน
ทำความรู้จักกับ Customer Life Cycle กันก่อน
Customer Life Cycle อธิบายง่าย ๆ ก็คือเส้นทางที่ลูกค้าจะผ่านตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักสินค้าของคุณ จนกระทั่งกลายเป็นลูกค้าที่ภักดี โดยปกติแล้วจะประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ๆ คือ การสร้างการรับรู้ (Awareness), การพิจารณา (Consideration), การตัดสินใจซื้อ (Decision), การรักษาลูกค้า (Retention), และการแนะนำ (Advocacy)
ดังนั้น การเข้าใจและจัดการ Customer Life Cycle อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน เนื่องจากช่วยในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า พร้อมทั้งเพิ่มยอดขาย และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดอีกด้วย
CRM เข้ามามีส่วนช่วยในจัดการ Customer Life Cycle ได้อย่างไร
หากคุณกำลังพยายามจัดการกับ Customer Life Cycle ขอยกเคสตัวอย่างเช่น ธุรกิจ B2B ซึ่งต้องบอกเลยว่าขั้นตอนการขายมีความซับซ้อนมาก เนื่องด้วยมีหลายปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ กระบวนการตัดสินใจที่ยาวนาน ความต้องการที่เฉพาะเจาะจง และเมื่อปิดดีลไปแล้วยังมีขั้นตอนการบริการหลังการขาย และนำเสนอขายในครั้งต่อ ๆ ไป มีการต่ออายุ ต่อสัญญาต่าง ๆ ดังนั้น CRM จะช่วยดูแล Customer Life Cycle อย่างครอบคลุมทุกในขั้นตอน เพื่อเป้าหมายของธุรกิจ นั่นก็คือ การสร้างยอดขายให้กับธุรกิจนั่นเอง
5 ขั้นตอน จัดการ Customer Life Cycle ด้วย CRM
การทำความรู้จักครั้งแรก หรือ การสร้างการรับรู้ (Awareness)
ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนแรกที่ลูกค้ารู้จักสินค้าของคุณไม่ว่าจะช่องทางไหน ซึ่งอาจมาจากโซเชียลมีเดีย การนำเสนอในงานแสดงสินค้า หรือการติดต่อจากทีมเซลล์โดยตรง CRM จะช่วยให้คุณจัดการกับข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพื้นฐาน ข้อมูลการติดต่อ ความสนใจ ทำให้คุณสามารถจัดการและติดตามลูกค้าได้อย่างเป็นระบบตั้งแต่เริ่มต้น
ช่วงเวลาในการตัดสินใจ หรือ การพิจารณา (Consideration)
เมื่อลูกค้าเริ่มสนใจซอฟต์แวร์ของคุณมากขึ้น CRM จะช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามและบันทึกการติดต่อกับลูกค้าทั้งหมด เช่น การโทรศัพท์พูดคุย การส่งอีเมล หรือการนัดหมายเพื่อนำเสนอ Demo ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทีมขายสามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าหรือเสนอข้อเสนอพิเศษที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
การตัดสินใจซื้อ (Decision)
ในช่วงที่ลูกค้ากำลังตัดสินใจซื้อ CRM จะช่วยให้ทีมขายติดตามสถานะของลูกค้าได้อย่างละเอียด เช่น ลูกค้ากำลังพิจารณา หรือการติดตามงานต่าง ๆ ที่ต้องทำของทีมขาย CRM สามารถบันทึกข้อมูลการติดต่อกับลูกค้า ช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการตัดสินใจซื้อ
การรักษาลูกค้าและการซื้อซ้ำ (Retention)
หลังจากที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าของคุณแล้ว CRM จะช่วยติดตามความพึงพอใจของลูกค้า เช่น การใช้บริการหลังการขาย การสนับสนุนทางเทคนิค หรือการติดตามการต่ออายุหรือการอัปเกรด CRM จะเก็บข้อมูลเหล่านี้เพื่อให้คุณสามารถดำเนินนำเสนอบริการเพิ่มเติมได้ทันที ให้ลูกค้าได้รับการดูแลอย่างดี เป็นวิธีการรักษาลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำได้เป็นอย่างดี
การแนะนำและความภักดี (Advocacy)
สุดท้าย เมื่อลูกค้าพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ และบริการของคุณตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการกับคุณ จึงเกิดความไว้ใจ และเป็นการบอกต่อ แนะนำ รีวิว ไปยังเพื่อน ๆ ในวงธุรกิจ เกิดเป็นลูกค้ารายใหม่ ๆ และขยายฐานลูกค้าได้อย่างยั่งยืนในที่สุด
CRM กุญแจสำคัญที่นำธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
การลงทุนใน CRM ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยให้การทำงานของทีมขายดีขึ้น แต่เป็นการลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการ Customer Life Cycle ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสในการขาย รักษาลูกค้า และสร้างความภักดีในระยะยาว
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ CRM และการบริหารงานขายได้ที่
Blog: www.veniocrm.com/blog
Facebook: www.facebook.com/veniocrm
Twitter: www.twitter.com/veniocrm
Youtube: www.youtube.com/veniocrm